July 6 2020
.เลือกให้สอดคล้องกับรูปแบบการฝึก
ปกติแล้วดัมเบลจะมีด้วยกัน 2 รูปแบบคือ แบบน้ำหนักคงที่ ซึ่งไม่สามารถปรับน้ำหนักได้ กับอีกแบบคือ แบบปรับน้ำหนักได้ ซึ่งสามารถใส่น้ำหนักเพิ่มเข้าไปได้ในดัมเบลนั่นเอง ซึ่งทั้งสองแบบก็จะมีความแตกต่างกัน ดัมเบล
-แบบปรับน้ำหนักไม่ได้ เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่ใช้น้ำหนักเดิม ซึ่งโดยส่วนมากมักจะเป็นการออกกำลังกายของผู้หญิง และผู้ที่เริ่มต้นออกกำลังกายใหม่ ๆ เพื่อความทนทานของกล้ามเนื้อมากกว่าการเพิ่มขนาดกล้ามเนื้อในระยะยาว อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการเพิ่มน้ำหนักก็จำต้องซื้อขนาดใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งต้องคำนึงถึงพื้นที่ในการจัดเก็บภายในบ้านหรือคอนโดของคุณด้วยเช่นกัน
-แบบปรับน้ำหนักได้ เหมาะกับผู้ฝึกมาสักระยะ ซึ่งคุณสามารถลดหรือเพิ่มน้ำหนักได้โดยไม่จำกัดตามขนาดของดัมเบล และจำนวนแผ่นน้ำหนักที่คุณซื้อ สำหรับใครที่คิดจะหันมาออกกำลังกายด้วยดัมเบลอย่างจริงจังเพื่อกล้ามเนื้อที่แข็งแรง และมีขนาดใหญ่มากขึ้นในอนาคต ต้องบอกเลยว่าเลือกซื้อแบบนี้จะเหมาะมาก ๆ
ทั้งนี้หากเลือกแบบปรับน้ำหนักได้ ให้พิจารณาเพิ่มเติมที่ “ด้ามจับ” ซึ่งดัมเบลแบบปรับน้ำหนักได้จะมี ด้ามจับ เป็นตัวยึดแผ่นน้ำหนักทั้งหมดเข้าด้วยกัน โดยด้ามจับ ก็จะมีด้วยกันหลายรูปแบบ ได้แก่
ด้ามจับแบบหมุนเกลียว : ยึดได้แน่น มีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
ด้ามจับแบบหมุนเกลียวเป็นด้ามจับที่มีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นไปจนถึงผู้ที่ออกกำลังกายหนัก เพราะมีความปลอดภัยในการใช้งานสูง แผ่นน้ำหนักไม่หลุดง่ายในระหว่างเทรนนิ่ง แต่มีข้อเสียคือ อาจจะใช้เวลามากหน่อยในการเปลี่ยนแผ่นน้ำหนัก
ด้ามจับแบบปกติ : เปลี่ยนแผ่นน้ำหนักได้ง่าย แต่หลุดได้ง่ายเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้เชี่ยวชาญ
ด้ามจับแบบปกติเป็นด้ามจับที่มีตัวยึดแผ่นน้ำหนักแบบทั่วไป ไม่ได้เป็นเกลียว ซึ่งที่เห็นได้บ่อย ๆ ก็จะเป็นตัวยึดแบบคล้าย ๆ กับสปริงหนีบเพื่อยึดแผ่นน้ำหนัก ข้อดีคือ เปลี่ยนแผ่นน้ำหนักได้ง่าย แต่ข้อเสียคือ แผ่นน้ำหนักอาจหลุดได้ง่าย ซึ่งความปลอดภัยน้อยกว่าแบบเกลียว ทำให้ไม่เป็นที่นิยมเท่าแบบเกลียว ด้ามปกตินั้นเหมาะสำหรับคนที่ออกกำลังมาจนเชี่ยวชาญแล้ว หรือมีเทรนเนอร์ช่วยดูแลความปลอดภัยขณะเทรนนิ่ง